ข้อดี-ข้อเสีย ของที่นอนแต่ละประเภทก่อนตัดสินใจซื้อใช้งาน

2. ที่นอนยางพารา
มีทั้งยางพาราแท้ 100% และการผสมวัสดุอื่น ๆ เข้ามาด้วยนับเป็นที่นอนสุขภาพมาแรงมาก มีข้อดี-ข้อเสียน่าสนใจ ดังนี้
‍
ข้อดี
- ลดอาการปวดหลังและแก้ปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
- แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้นานมาก
- รองรับทุกสรีระการนอนหลับ ยืดหยุ่นสูง ลดแรงกดทับดี

ข้อเสีย
- น้ำหนักเยอะมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
- ช่วงแรกอาจมีกลิ่นยางพาราในระหว่างนอนหลับ
- ราคาแพงเมื่อเทียบกับที่นอนประเภทอื่น
‍

3. ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง
ที่นอนพ็อกเก็ตสปริงจะมีการแยกตัวของสปริงชัดเจนและทำงานแบบอิสระ ส่งผลให้อารมณ์การนอนแตกต่างกัน มีข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้

ข้อดี
- ดูดซับแรงกระแทกในขณะพลิกตัว คนข้าง ๆ จึงไม่รู้สึก
- หากสปริงเสียหายสามารถเปลี่ยนทีละตัวได้ ไม่ต้องซื้อที่นอนใหม่
- ช่วยเรื่องการระบายอากาศ ไม่รู้สึกร้อนเกินไป

ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่าที่นอนสปริงทั่วไป
- ใช้งานเป็นระยะเวลานานเกิน 7 ปี อาจเริ่มรู้สึกปวดหลังจากการเสียหายของสปริงและตัวที่นอน
‍

4. ที่นอนฟองน้ำอัด
มีวัสดุหลักเป็นฟองน้ำชิ้นเล็ก ๆ อัดรวมกันเป็นก้อนผ่านส่วนผสมทางเคมี อีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมีข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้

ข้อดี
- ให้สัมผัสแน่น ไม่ยวบยาบ พลิกตัวแล้วคนข้าง ๆ ไม่รู้สึก
- อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับที่นอนอีกหลายประเภท
- เป็นที่นอนราคาถูก หาซื้อได้ง่าย

ข้อเสีย
- มีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
- มักเก็บความชื้นทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย

5. ที่นอนโฟม
แต่ละชั้นโฟมจะให้ความนุ่มแน่นและคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ แตกต่างกันออกไป ไม่มีสปริง มีข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้

ข้อดี
- สัมผัสนุ่มแน่นคล้ายยางพาราแต่ราคาถูกกว่า
- น้ำหนักเบากว่าที่นอนยางพารา เคลื่อนย้ายง่าย

ข้อเสีย
- หากอากาศร้อนจัดมักทำให้เหงื่อออกง่ายเพราะระบายอากาศไม่ดี
- ยุบตัวง่ายอายุการใช้งานไม่นานนัก และมักปวดหลังเมื่อใช้ไปนาน ๆ

นี่คือข้อดี-ข้อเสียของที่นอนแต่ละประเภทที่ได้รับความนิยมในการใช้งาน มั่นใจว่าจะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นกว่าเดิม ได้ที่นอนตามจุดประสงค์ที่คาดหวังไว้