เราจำหน่ายที่นอนอยู่ 7 ประเภท ได้แก่
ที่นอนสปริง (Bonnel Spring)
ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง (Pocket Spring)
ที่นอนยางพารา 100% (แบบฉีดขึ้นรูป)
ที่นอนยางพารา 100 % (แบบอัด)
ที่นอนสปริง + ยางพารา 100% (แบบฉีด)
ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง + ยางพารา 100% (แบบฉีด)
ที่นอนยางพาราแบบฉีด + ที่นอนยางพาราอัด
ที่นอนจะขึ้นอยู่กับการใช้งานและคุณภาพของวัสดุเป็นตัวกำหนดระยะเวลาที่ท่านจะสามารถใช้งานที่นอนได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ที่นอนจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 7 ปี ก่อนที่ระดับความสบายและการรองรับตามหลักสรีรวิทยาจะเริ่มลดลง
แนะนำให้เลือกเป็นที่นอนแบบแน่น แต่การเลือกใช้ที่นอนเป็นส่วนหนึ่งของการบรรเทา ไม่สามารถทำให้ท่านหายปวดหลังได้ หากท่านมีปัญหาสุขภาพ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักกายภาพบำบัดว่าที่นอนรุ่นไหนเหมาะกับท่านเป็นพิเศษหรือไม่
สำหรับที่นอนเพื่อสุขภาพ ซึ่งเราขอแนะนำที่นอน 2 ประเภทได้แก่ ที่นอนที่ทำจากยางพารา 100% ซึ่งแน่นอนว่าดีต่อสุขภาพและไม่ทำให้ปวดหลังอย่างแน่นอน
เรามีการรับประกันเฉพาะโครงสร้างของที่นอนเท่านั้น โดยมีการรับประกันตั้งแต่ 7 – 15 ปี
เราขอแนะนำให้ท่านใช้เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กในการทำความสะอาดที่นอน สำหรับรอยเปื้อน ให้ท่านใช้น้ำผสมสบู่อ่อนๆ ค่อยๆ เช็ดอย่างเบามือ โดยต้องระวังไม่ให้ที่นอนเปียกชุ่ม และที่สำคัญ ห้ามซักแห้งที่นอนโดยเด็ดขาด เนื่องจากน้ำและสารเคมีที่ใช้ในการซักแห้งอาจเป็นอันตรายต่อเนื้อผ้าหรือวัสดุที่อยู่ลึกลงไปในที่นอนได้
ควรใช้ที่นอนแบบไร้สปริง เพราะเด็กๆ มักจะชอบขึ้นกระโดดเล่นบนที่นอน ซึ่งจะทำให้โครงสร้างภายในของที่นอนเกิดความเสียหายได้
ที่นอนบางรุ่นสามารถพลิกนอนได้ทั้ง 2 ด้าน
ควรแกะพลาสติกหุ้มออกให้หมด เพื่อให้อากาศถ่ายเทและมีความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น
โปรดศึกษาคู่มือการดูแลรักษาที่แนบมากับใบรับประกันที่นอนของท่าน เพื่อรับทราบวิธีดูแลรักษาที่นอนของท่านอย่างเหมาะสมที่สุด
วิธีที่ดีที่สุด คือ การหาคนมาช่วยขนย้ายอย่างน้อย 2 คน เพราะว่าจะทำให้การขนย้ายง่ายขึ้นมาก กรุณาอย่าพับที่นอนหรืองอที่นอน โดยเฉพาะที่นอนสปริง เพราะอาจทำให้สปริงด้านในหรือชั้นวัสดุภายในเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม ที่นอนโฟมมีสามารถในการงอตัวได้มากกว่าที่นอนสปริง
ที่นอนระบบพ็อกเก็ตสปริง เป็นที่นอนที่มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยขจัดปัญหาการสั่นไหวรบกวนคู่นอน ขณะที่พลิกตัวไปมา
เมื่อท่านวางที่นอนเข้าที่แล้ว ควรตากที่นอนให้ระบายกลิ่นก่อนปูผ้าปูที่นอน โดยระยะเวลาการตากขึ้นอยู่กับความพอใจของท่านเป็นหลัก หากท่านยังได้กลิ่นสารเคมีหลังจากที่ตากได้สักพัก ท่านอาจจะต้องตากเพิ่มอีกจนกว่าจะไม่ได้กลิ่น
สัญญาณเตือนที่จะบอกคุณได้ว่า ตอนนี้ต้องเตรียมเปลี่ยนที่นอนแล้วนะ นั่นคือ คุณจะสังเกตว่าที่นอนเริ่มยุบตัวมาก ไม่สามารถคืนสภาพได้ เมื่อนอนไปนาน ๆ จะมีอาการปวดเมื่อยบริเวณหลังอย่างมาก สัญญาณเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมสภาพของวัสดุที่นำมาประกอบที่นอน และหากทนใช้ไปนาน ๆ อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ สำหรับอายุการใช้งานของที่นอนนั้น จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาประกอบที่นอนค่ะ สำหรับฟองน้ำมีอายุการใช้งานน้อยที่สุดนั่นคือ 1 – 2 ปีเท่านั้น, ที่นอนใยมะพร้าวมีอายุการใช้งานเพียง 3 ปี, ที่นอนสปริงมีอายุการใช้งาน 3 – 5 ปี และที่นอนยางพารามีอายุการใช้งานที่ยาวนานสุดนั่นคือ 5 – 10 ปีเลยทีเดียวค่ะ